น้ำมันประกอบอาหาร 3 ชนิดที่ดีต่อสุขภาพ สามารถปรุงอาหารได้แบบเฮลธ์ตี้สุด ๆ

เชื่อว่าใคร ๆ ที่ได้เดินตลาดนัดสุขภาพกันอยู่บ่อย ๆ  จะต้องตามติดเทรนด์อาหารสุขภาพอย่างแน่นอน หรือกำลังเริ่มทำอาหารคลีนรับประทานเอง ต่างก็รู้ว่าปัจจุบันนี้ น้ำมันประกอบอาหาร ที่ดีต่อสุขภาพ นับได้ว่าเป็นทางเลือกที่ดีแถมยังมีให้เลือกอย่างมากมาย เช่น น้ำมันชื่อหรูผลิตจากต่างประเทศ ซึ่งจะมีการพูดถึงประโยชน์เกี่ยวกับสุขภาพกันอย่างมากมาย และวันนี้ทางเรา minebeauty เว็บไซต์สำหรับผู้หญิงทุกคน ยังคงมีข้อมูลเกี่ยวกับ น้ำมัน ประกอบอาหาร 3 ชนิด ซึ่งเป็น น้ำมันทำอาหาร ที่ดีต่อสุขภาพแบบสุด ๆ ส่วนจะมีน้ำมันชนิดไหน ประเภทไหนบ้างนั้น ตามไปดูกันได้เลยค่ะ

1. น้ำมันมะกอก

น้ำมันมะกอก ถือได้ว่าเป็น น้ำมันประกอบอาหาร ชนิดน้ำมันพืช ที่อุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัว เหมือนกับน้ำมันอะโวคาโดและยังมีกรดไขมันโอเมก้า 6 โอเมก้า 3 ถือได้ว่าใกล้เคียงกัน ซึ่งอัตราส่วนผสมของโอเมก้า 6 และโอเมก้า 3 จะเหมาะสม 5:1 เมื่อเราได้มาเปรียบเทียบกับน้ำมันชนิดอื่น ๆ ด้วย เช่น น้ำมันข้าวโพด 31:1 หรือจะเป็นน้ำมันปาล์ม ที่มีกรดไขมันโอเมก้า 6 สูง แต่ก็ไม่มีกรดไขมันโอเมก้า 3

นอกจากนี้แล้วน้ำมันมะกอกยังมีไขมันหลักในอาหารเมดิเตอร์เรเนียน ที่ได้มีการยืนยันว่า หากเรารับประทานเป็นประจำทุกวันช่วยให้ผู้ป่วยโรคหัวใจอายุยืนมากขึ้น 5 ปี

ปรุงอย่างไรให้ได้ประโยชน์มากที่สุด

น้ำมันมะกอก จะมีจุดเกิดควันต่ำกว่าน้ำมันถั่วเหลืองหรือน้ำมันรำข้าว เหมาะสำหรับนำมาปรุงอาหารประเภทจำพวกผัดไฟ่อ่อน หรือจะเป็นส่วนผสมน้ำสลัด ที่จะมีคุณค่าทางด้านโภชนาการที่สูง เพราะหากผัดไฟแรงหรือนำมาทอด อาจจะทำให้น้ำมันเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและเหม็นหืนได้ จนทำให้เกิดสารก่อมะเร็งนั่นเอง

2. น้ำมันอะโวคาโด ลดไขมันหน้าท้องและคอเลสเตอรอลได้ดี

ทางด้านกระทรวงเกษตรในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า อะโวคาโด เป็นผลไม้ที่มีไขมันสูง ในขณะที่ผลไม้ชนิดอื่น ๆ จะมีไขมันน้อยมาก หรืออาจจะไม่มีเลย น้ำมัน ประกอบอาหาร ที่สกัดมาจากอะโวคาโดจะอุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงถึง ร้อยละ 70 และได้มีงานวิจัยจำนวนมากรองรับถึงประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพ เช่น วารสาร Diabetes Care ได้ค้นพบว่า การรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเป็นประจำทุกวันก็จะช่วยลดน้ำหนัก และลดไขมันหน้าท้องได้

ได้มีการทดลองโดยนำคนอ้วนแบบออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกให้รับประทานอาหารไขมันต่ำอยู่ที่สัดส่วนร้อยละ 24 กลุ่มที่ 3 ให้รับประทานอาหารที่มีไขมันสะสมร้อยละ 34 ของพลังงาน กลุ่มที่ 3 ให้เพิ่มอะโวคาโด 1 ผลลงไปในแต่ละมื้อของอาหารทุกวัน ผ่านไป 5 สัปดาห์ ไม่น่าเชื่อเลยว่า กลุ่มสุดท้ายจะได้รับไขมันมากที่สุด กลับสามารถลดระดับไขมันภายในเลือดได้มากที่สุด  โดยที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลแอลดีแอล ภายในเลือดได้ถึง 13.5 มิลลิกรัม จะเพียงพอต่อการลดความเสี่ยงของโรคหัวใจได้ และส่วนกลุ่ม1 และกลุ่ม 2 ลดคอเลสเตอรอลได้น้อยกว่า 8.3 และ 7.4 มิลลิกรัมตามลำดับ

ปรุงอย่างไรให้ได้ประโยชน์มากที่สุด

น้ำมันอะโวคาโด เป็น น้ำมันประกอบอาหาร ที่มีจุดเกิดของควันมากกว่านั้นรำข้าวและน้ำมันปาล์ม จึงใช้นำมาผัดกับไฟแรง ๆ อบ ทอด หรือจะทำน้ำสลัดก็ได้

3. น้ำมันแฟลกซ์ซีด ป้องกันกระดูกพรุน

ร่ายกายของเราควรจะได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3 วันละ 2 กรัม โดย น้ำมัน ประกอบอาหาร แฟลกซ์ซีดเพียงแค่ 1 ช้อนโต๊ะจะสามารถให้กรดไขมันโอเมก้า 3 สูง ที่เพียงพอต่อร่างกายใน1 วัน ได้มีงานวิจัยออกมาหลายชิ้น แฟลกซ์ซีดและ น้ำมันประกอบอาหาร แฟลกซ์ซีด มีคุณสมบัติช่วยลดคอเลสเตอรอลและยังลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจได้อีกด้วย และน้ำมันแฟลกซ์ซีดยังช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคกระดูกพรุนในผู้หญิงที่บางคนประจำเดือนหมดแล้ว และผู้หญิงที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน

ปรุงอย่างไรได้ประโยชน์มากที่สุด

น้ำมันแฟลกซ์ซีด จะมีจุดที่เกิดควันต่ำกว่าน้ำมันมะกอก เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรปรุงโดยการใช้ความร้อน แต่จะสามารใช้ผสมกับน้ำสลัด หรือโรยเมล็ดใสโยเกิร์ต และผสมผลไม้ลงไปด้วย เพื่อประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพ เพียงแค่เราพิถีพิถันในการเลือก น้ำมันประกอบอาหาร ที่ดีและเลือกใช้วิธีในการปรุงอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ไม่รับประทาน น้ำมันทำอาหาร มากเกินไป ย่อมส่งผลดีต่อร่างกายได้อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้น น้ำมัน ประกอบอาหาร เพื่อสุขภาพที่กล่าวมาทั้ง 3 ชนิด ล้วนแล้วนำมาปรุงอาหารได้เฮลธ์ตี้แบบสุด ๆ  ยิ่งนำน้ำมันต่าง ๆ เหล่านี้ไปใช้อย่างถูกวิธี ก็ย่อมดีต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้นได้อีกเช่นกัน